วันแรก: กรุงเทพฯ - ทองผาภูมิ - บ่อน้ำพุร้อนหินดาด - สังขละบุรี - วัดวังก์วิเวการาม
06.00 น. คณะพร้อมกัน ณ จุดนัดหมาย (จุดจอดรถ เดอะบาซาร์ รัชดาภิเษก แยกรัชดา-ลาดพร้าว ฝั่งเซเว่น) โดยมีเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับ จากนั้นออกเดินทางสู่ อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง)
บริการอาหารกลางวันที่ ร้านอาหารท้องถิ่น
ถึงอำเภอทองผาภูมิ นำท่านเดินทางไป น้ำพุร้อนหินดาด หรือ น้ำพุร้อนกุยมั่ง บ่อน้ำร้อนธรรมชาติ มีสรรพคุณในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บหลายอย่าง เช่น โรคเหน็บชา ไขข้อ อักเสบ สามารถลงอาบน้ำในบ่อได้ และยังมีลำธารน้ำเย็นไหลอยู่ด้านล่างบ่อน้ำร้อน ให้ท่านได้อิสระแช่น้ำร้อนตามอัธยาศัย
จากนั้น นำท่านเข้าชม วัดวังก์วิเวการาม หรือ วัดหลวงพ่ออุตตมะ นับเป็นศูนย์รวมจิตใจของชนเชื้อชาติที่อาศัยอยู่ในอำเภอสังขละบุรี ทั้งชาวไทย ชาวกะเหรี่ยง และโดยเฉพาะชาวไทยเชื้อสายมอญ ที่มีความเลื่อมใสและศรัทธาหลวงพ่ออุตตมะเป็นดั่ง "เทพเจ้าแห่งชาวมอญ" วัดนี้ เกิดขึ้นจากกพลังศรัทธาที่มีต่อหลวงพ่ออุตตามะ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับชาวมอญ ในการประกอบพิธีกรรมตามประเพณีของมอญ
เดินทางไปยังโรงแรมเพื่อเช็คอิน พักผ่อนตามอัธยาศัย
บริการอาหารเย็นที่ ร้านอาหารท้องถิ่น
* อาหาร: บริการอาหารกลางวัน + บริการอาหารเย็น
* ที่พัก: X
วันที่สอง: สังขละบุรี - ล่องเรือวัดเมืองเก่า - น้ำตกเกริงกระเวียง - เขื่อนวชิราลงกรณ์ - หมู่บ้านอีต่อง ตำบลปิล็อก
06.00 น. นำท่านใส่บาตรพระตอนเช้าบริเวณ สะพานมอญ (สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย) สัมผัสมนต์เสน่ห์สังขละบุรีและวิถีชีวิตชาวไทย-มอญ ท่านสามารถร่วมแต่งชุดชาวมอญเพื่อใส่บาตรและเดินถ่ายรูปสวยๆของสะพานมอญได้ (มีบริการเช่าชุดที่ร้านขายอาหารใส่บาตร หรือ ซื้อเป็นที่ระลึกได้ที่ร้านระหว่างทางเดินไปสะพาน มีให้เลือกหลากหลายร้าน)
อิสระอาหารเช้าที่สะพานมอญ เพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยว ให้ท่านได้เดินถ่ายรูป หรือนั่งทานกาแฟยามเช้า หรือโจ๊กร้อนๆได้บรรยากาศการชมวิวสะพานมอญ
นำท่าน ล่องเรือ วัดเมืองเก่า และ หอระฆังของเมืองบาดาล (โบสถ์จมน้ำ) “วัดวังก์วิเวการาม” (เก่า) หรือ “วัดหลวงพ่ออุตตมะ” เป็นวัดที่หลวงพ่ออุตตมะ ร่วมกับชาวบ้านอพยพชาวกะเหรี่ยงและชาวมอญ ได้ร่วมกันสร้างขึ้น ในปี พ.ศ. 2496 ห่างจากอำเภอเมืองกาญจนบุรี ประมาณ 220 กิโลเมตร ต่อมาปี พ.ศ. 2527 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้ก่อสร้างเขื่อนวชิราลงกรณ์ ซึ่งเมื่อกักเก็บน้ำแล้ว น้ำในเขื่อนเขาแหลมจะเข้าท่วมตัวอำเภอสังขละบุรีเก่ารวมทั้ง วัดนี้ด้วย จึงได้ย้ายวัดมาอยู่บนเนินเขา ส่วนวัดเดิมได้จมอยู่ใต้น้ำมานานนับสิบปี เหลือเพียงซากปรักหักพังของวัดและอาคารบ้านเรือน ปัจจุบันอุโบสถหลังเก่าที่จมอยู่ใต้น้ำ ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันมากขึ้น ซึ่งเมื่อน้ำลดระดับลง เมืองบาดาลทั้งเมืองก็จะเผยความงดงามของโบราณสถาน
นำท่านเดินทางเข้าสู่อำเภอทองผาภูมิ ระหว่างทางนำท่านชม น้ำตกเกริงกระเวีย อยู่ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขาแหลม เป็นน้ำตกที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก สูงประมาณ 5 เมตร มีน้ำไหลลดหลั่นกันมาตามโขดหินมายังแอ่งน้ำน้อยใหญ่ น้ำใส มีน้ำ ไหลตลอดทั้งปี
จากนั้น นำท่านชม เขื่อนวชิราลงกรณ์ หรือชื่อเดิมว่า เขื่อนเขาแหลม เป็นเขื่อนหินถมดาดคอนกรีตแห่งแรกของไทย สร้างขึ้นเพื่อปิดกั้นแม่น้ำแควน้อย เป็นเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำอเนกประสงค์โครงการหนึ่งของแผนพัฒนาลุ่มน้ำแม่กลองและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้พัฒนาให้สามารถผลิตไฟฟ้า เพื่ออำนวยประโยชน์ให้กับประชาชนเพิ่มมากขึ้น นอกจากผลิตกระแสไฟฟ้าแล้ว เขื่อนวชิราลงกรณ์ ยังมีประโยชน์ด้านการเกษตรและชลประทาน การบรรเทาอุทกภัยและเป็นแหล่งเพราะพันธุ์น้ำจืดเช่นกัน
บริการอาหารกลางวันที่ ร้านอาหารท้องถิ่น
นำท่านออกเดินทางต่อไปยัง หมู่บ้านอีต่อง ตำบลปิล็อก เขตทำเหมืองเก่า ระหว่างทางมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม เห็นน้ำตกไหล จากภูเขา "บ้านอีต่อง" หมู่บ้านขนาดน่ารัก สามารถเดินเป็นวงกลมรอบนึงได้สบายๆ เพียง 10-15 นาทีแค่นั้น โดยในอดีตเคยเป็นเมืองทำเหมืองที่เคยรุ่งเรือง แต่หลังจากที่เหมืองปิดตัวลงไป ชาวบ้านทั้งคนไทยและคนพม่าที่ลงหลักปักฐานที่นี่ก็ยังคงอาศัยอยู่ตามเดิมเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันที่ยังคงความเสน่ห์ของเมืองเหมืองเก่า ซึ่งมีเอกลักษณ์ตรงที่ความเงียบสงบ มีวิถีชีวิตชาวบ้านที่เรียบง่าย ทั้งสภาพภูมิอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี มีความงามของสภาพภูมิประเทศ จึงเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางแวะเวียนมาเยือน ท่านสามารถเลือกซื้อของที่ระลึก ขนมพื้นเมือง ณ ถนนคนเดินบ้านอีต่อง
เดินทางไปยังโรงแรมเพื่อเช็คอิน พักผ่อนตามอัธยาศัย
บริการอาหารเย็นที่ ร้านอาหารท้องถิ่น
* อาหาร: บริการอาหารกลางวัน + บริการอาหารเย็น
* ที่พัก: X
วันที่สาม: ทองผาภูมิ - เนินช้างศึก - ไทรโยค - ปราสาทเมืองสิงห์ - กรุงเทพฯ
06.00 น. นำท่านชม เนินช้างศึก จุดชมพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดในประเทศไทยซึ่งเส้นทางค่อนข้างชันและเป็นหลุม ต้องเดินทางโดยรถบริการของหมู่บ้าน นำท่านชมทะเลหมอก ที่ท่านจะสามารถเห็นโรงส่งท่อก๊าซธรรมชาติที่ส่งมาจากพม่าเข้าสู่ไทย และยังสามารถเห็นบรรยากาศโดยรอบของหมู่บ้านอีต่องอีกด้วย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ อำเภอไทรโยค (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง)
บริการอาหารกลางวันที่ ร้านอาหารท้องถิ่น
เดินทางไป ปราสาทเมืองสิงห์ ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำแควน้อยในอำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งมีสถาปัตยกรรม และปฏิมากรรม คล้ายคลึงกับของสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 กษัตริย์นักสร้าง และเป็นโบราณสถานที่มีศิลปะการก่อสร้างอยู่ในยุคลพบุรีตอนปลาย ประมาณพุทธศตวรรษที่ 16-18 ผังเมืองเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีเนื้อที่ประมาณ 800 กว่าไร่ กำแพงเมืองก่อด้วยศิลาแลงขนาดกว้าง 880 เมตร โดยได้รับอิทธิพลทางศาสนาพุทธ นิกายมหายานและวัฒนธรรมจากกัมพูชา ตัวปราสาทล้อมรอบด้วยกำแพงศิลาแลง คูน้ำและแนวคันดิน รูปแบบสถาปัตยกรรมและประติมากรรมสร้างตามลักษณะขอมแบบบายน การขุดตกแต่งบูรณะอุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2478 โดยช่างฝีมือจากกรมศิลปากร ใช้เวลาดำเนินการอยู่หลายปี จนมาเสร็จสมบูรณ์เมื่อปี พ.ศ. 2530
จากนั้น นำคณะทัวร์ทุกท่านเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยระหว่างทางแวะให้คณะทัวร์ทุกท่านได้ซื้อของฝากที่เมืองกาญจนบุรี
เดินทางถึง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ
* อาหาร: บริการอาหารกลางวัน
* ที่พัก: X
** ขอขอบพระคุณที่เลือกใช้บริการ **